วิเคราะห์ทำเลที่อยู่อาศัยในแต่ละย่าน (Part 1)

กรุงเทพฯเป็นเมืองที่แต่ละย่านค่อนมีสไตล์เอกลักษณ์ที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก วันนี้ Rentians.com เราจะมาช่วยวิเคราะห์สไตล์ของแต่ละย่านในกรุงเทพฯกัน เพื่อช่วยให้เพื่อนๆได้ตัดสินใจเลือกย่านที่เหมาะกับตนเองได้ง่ายขึ้น

  1. ย่านจัตจักร-ลาดพร้าว
    • เป็นย่านที่เป็นจุดศูนย์กลางการคมนาคมทางฝั่งเหนือของกรุงเทพชั้นใน เป็นจุดที่เดินทางค่อนข้างสะดวกเนื่องจากมีทั้ง BTS, MRT และยังมีขนส่งหมอชิตสำหรับการเดินทางไปภาคเหนือ-อีสานอีกด้วย
    • ห้างสรรพสินค้าและแหล่งชอปปิ้งที่สำคัญในย่านนี้ คือ เซ็นทรัลลาดพร้าว, ยูเนี่ยนมอลล์, Big C, เมเจอร์รัชโยธิน, ตลาดนัดจัตุจักร, ตลาดนัด อตก.
    • อาหารการกินในย่านนี้หาค่อนข้างง่าย สามารถหา Street food และร้านอาหารในราคาทั่วไปคือประมาณ 30-50 บาทต่อมื้อได้สบายๆ
    • สไตล์ของย่านนี้ : เดินทางสะดวก เป็นย่านที่ค่าครองชีพไม่แพงมากนัก มียูเนี่ยนมอลล์และตลาดนัดจัตุจักรที่เป็นแหล่งรวมตัวและที่ชอปปิ้งสำคัญของวัยรุ่น เพราะมีทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง ในราคาที่เข้าถึงได้
  2. ย่านอ่อนนุช-อุดมสุข
    • การคมนาคมหลักๆของย่านนี้คือ BTS และมีขนส่งเอกมัยสำหรับเดินทางไปภาคตะวันออก
    • ห้างสรรพสินค้าและแหล่งชอปปิ้งที่สำคัญในย่านนี้ คือ Gateway เอกมัย, เมเจอร์สุขุมวิท, เซ็นจูรี่ อ่อนนุช, โลตัสอ่อนนุช, Big C, ตลาดสดอ่อนนุช, ตลาดนัดบริเวณโลตัสอ่อนนุช
    • อาหารการกินของย่านนี้มักเป็นร้านอาหารเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง และร้าน Street food ไปจนถึง Food court ของห้างในย่านนี้ โดยราคาค่อนข้างหลากหลายตั้งแต่อาหารจานเดียวราคาปกติ 40-50 บาท ไปจนถึงร้านอาหารประเภทภัตตาคารไทย-จีน
    • สไตล์ของย่านนี้ : ย่านนี้มีค่าครองชีพไม่สูงมากนัก เนื่องจากมีโลตัส Big C และตลาดสดที่อยู่ติดรถไฟฟ้า ทำให้หาของกินได้ง่ายและหลากหลาย
  3. ย่านพระราม9-รัชดา
    • การคมนาคมหลักๆของย่านนี้คือ MRT
    • ห้างสรรพสินค้าและแหล่งชอปปิ้งที่สำคัญในย่านนี้ คือ ตลาดนัดรถไฟ, เอสพลานาดรัชดา, เซ็นทรัลพระราม 9. ฟอร์จูนทาวน์, The street รัชดา
    • อาหารการกินของย่านนี้หลักๆจะอยู่ที่ตลาดนัดรถไฟรัชดา ส่วนถ้าเป็นคนที่พักอาศัยอยู่ที่สถานีพระราม 9 ก็มักเป็น Food court ในห้างฟอร์จูน หรือ Street food ริมทาง และร้านอาหารในห้างเซ็นทรัลพระราม 9
    • สไตล์ของย่านนี้ : เป็นย่านที่มีตลาดรถไฟรัชดา ที่เป็นตลาดนัดใหญ่ที่สำคัญของกรุงเทพ เป็นศูนย์รวมของวัยรุ่นและนักท่องเที่ยว เพราะมีทั้งอาหารและเสื้อผ้าแฟชั่น ทำให้ราคาค่าครองชีพในย่านนี้ไม่สูงมากนัก สามารถหาของกินได้หลากหลาย โดยราคาจะมีตั้งแต่ 40 บาทขึ้นไปจนถึง 200 – 300 บาท แล้วแต่ร้านและเมนู
  4. ย่านฝั่งธนฯ-วงเวียนใหญ่-บางหว้า
    • การคมนาคมหลักๆของย่านนี้คือ BTS และ BRT
    • ห้างสรรพสินค้าและแหล่งชอปปิ้งที่สำคัญในย่านนี้ คือ เดอะมอลล์ท่าพระ, ตลาดพลู, ตลาดเดินเล่น, ตลาดทางรถไฟวงเวียนใหญ่, ตลาดบริเวณสถานี BTS วุฒากาศ
    • อาหารการกินของย่านนี้หลักๆ มักจะเป็นร้านอาหารดั้งเดิมเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ทั้งในย่านตลาดพลู และตลาดวงเวียนใหญ่ นอกจากนี้ยังมี Food court ในห้างเดอะมอลล์ท่าพระ และ ศูนย์รวมอาหารและแฟชั่นเปิดใหม่ที่ตลาดเดินเล่นฝั่งตรงข้ามเดอะมอลล์ท่าพระอีกด้วย โดยราคาอยู่ในเกณท์ปกติทั่วไปคือ 40-60 บาท แล้วแต่ร้านและเมนู
    • สไตล์ของย่านนี้ : ฝั่งธนฯนั้นดั้งเดิมแล้วเป็นถิ่นที่อยู่หลักของคนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งสังเกตได้จากร้านค้าของคนไทยเชื้อสายจีนที่เปิดตลอดสองข้างทาง เนื่องจากลูกหลานมักแต่งงานแยกครอบครัวและย้ายไปอยู่ในเมืองกันเป็นส่วนใหญ่ ทำให้กลุ่มผู้อยู่อาศัยหลักๆในย่านนี้มักเป็นผู้ใหญ่-ผู้สูงอายุ เป็นย่านที่ค่อนข้างสงบ ไม่พลุกพล่าน เหมาะสำหรับคนชอบความเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย ปัจจุบันเริ่มมีกลุ่มวัยทำงานอายุ 20-30 กว่า ย้ายเข้ามาอยู่คอนโดและอพาร์ทเมนต์ย่านนี้กันมากขึ้น เนื่องจากเป็นย่านที่สามารถเดินทางเข้าเมืองไปทำงานที่ออฟฟิศในย่านสีลมและช่องนนทรีได้สะดวกนั่นเอง

จบแล้วนะครับสำหรับการรีวิวทำเลในย่าน จัตจักร-ลาดพร้าว , ย่านอ่อนนุช-อุดมสุข , ย่านพระราม9-รัชดา , ย่านฝั่งธนฯ-วงเวียนใหญ่-บางหว้า

ส่วนใครที่สนใจทำเล ย่านสีลม-สาธร-ช่องนนทรี , ย่านอโศก-เพชรบุรี , ย่านคลองเตย-พระราม4 , และสุดท้าย ย่านพร้อมพงษ์-สุขุมวิท-ทองหล่อ ก็อย่าพลาดติดตาม part 2 ได้เร็วๆนี้

สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะมีห้องพักอยู่ในย่านไหน ก็สามารถมาโพสหาผู้เช่าได้ง่ายๆ ที่ https://www.rentians.com/ กับเรากันได้เลย

Related Articles